Loading...
ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก
ยินดีต้อนรับสู่คนเล่นForex

Solution in Digital Trading And Article Analysis Trader

หากคุณเป็น Trader หน้าใหม่ หรือ ผู้สนใจ ที่ต้องการรับข้อมูลข่าวสาร บทความการเทรด - บทวิเคราะห์ Gold,Forex,Crypto,USOIL อื่นๆ อีกมากมาย ที่เราพร้อมเสนอให้คุณ...โปรดติดตามเว็บไซต์แห่งนี้ด้วยนะครับ...ขอบคุณครับ
กดติดตาม Blog นี้ เพื่ออ่านบทความดีๆทุกวัน (ห้ามพลาด !!!)
Our Service

แนวทาง เมื่อเข้ากลุ่มปิด Telegram แล้ว

"มันคือการฝึกฝน ทักษะ ไปพร้อมๆกัน แถมได้เพื่อนที่เทรดได้ เทรดเสีย ด้วยนะ" ในความเป็นจริงแล้ว คนเทรดไม่เก่ง ก็มีเยอะแยะ ถมเถไป ส่วนคนที่เทรดเป็นแล้ว...ก็ต้องฝึกเทรดเอง นั้นละถูกต้องแล้วครับ หากเราไม่ได้มีแนวทางไกด์ไลน์ จากคนที่เทรดเป็นแล้ว ก็คงต้องงมหาวิถีตัวเองกันต่อไป (ผมก็ผผ่านมาละ) ขอบคุณครับ

Social Schuld

ตั้งเวลาโพสท์ในกลุ่ม Telegram อัพเดทบทความต่างๆ เสพความรู้แนวทางการเทรด และ นำเทรดสด

News Alert

แจ้งเตือนข่าวสาร เทรดข่าวตามปฏิทินเศรษฐกิจ Forex Factory ทั้งกลุ่มเปิด และ กลุ่มปิด Telegram

Boot Profit

มาทำกำไรไปพร้อมๆกันกับกลุ่มคนเล่น Forex นำเทรดสดโดย Trader Tan

Feedback

ผลตอบรับจากผู้ติดตาม เป็นที่น่าพอใจอย่างมาก ขอบคุณทุกท่าน ที่เป็นส่วนหนึ่งของคนเล่น Forex

About Konlenforex

Follow This Site Article Analysis For Trader

ติดตามบทความเทรดดีๆได้ที่เว็บไซต์แห่งนี้ อัพเดททุกวัน | รวมทั้งบทวิเคราะห์คู่เงินต่างๆ Gold - Crypto - USOIL เพื่อนำไปประกอบการตัดสินใจเข้าเทรดในแบบของเพื่อนๆเองครับ / วิเคราะห์ใน Tradingview ทุกวันนะครับ พลาดไม่ได้แล้ว กดติดตามเลย

บทความ

บทความล่าสุดวันนี้

ล้มแล้วลุก: 4 ขั้นตอนฟื้นตัวจากพอร์ต Forex ล้าง

 หลังจากเผชิญกับการล้างพอร์ตในตลาด Forex หลายคนอาจจะรู้สึกแย่ 😭 แต่ไม่ต้องห่วง! การกลับมาเริ่มต้นใหม่ไม่ใช่เรื่องยาก แค่ต้องมีสติและทำตามขั้นตอนเหล่านี้ 1. ยอมรับและเรียนรู้ 🧠 ให้มองว่าการล้างพอร์ตเป็นบทเรียนราคาแพง วิเคราะห์ว่าอะไรคือสาเหตุที่แท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการเทรดเยอะเกินไป หรือใช้อารมณ์ในการตัดสินใจ 2. หยุดพักให้ใจนิ่ง 🧘 อย่าเพิ่งรีบกลับไปเทรดทันที พักสมองให้ปลอดโปร่งสักพัก แล้วค่อยทบทวนแผนการเทรดใหม่ 3. เริ่มต้นใหม่ด้วยทุนน้อยๆ 💰 เมื่อพร้อม ให้กลับมาด้วยเงินจำนวนน้อยๆ ที่ไม่ทำให้เราเดือดร้อนหากต้องขาดทุนอีก วางแผนให้รัดกุมและยึดมั่นในแผนนั้น 4. ฝึกฝนและมีวินัย 💪 ใช้บัญชีทดลอง (Demo) ให้เป็นประโยชน์ ฝึกจนกว่าจะมั่นใจและมีวินัยมากพอ เพราะการเทรดที่ประสบความสำเร็จมาจากวินัยและการบริหารความเสี่ยงที่ดี การเทรดอย่าง มั่นคง และ ปลอดภัย คือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในระยะยาว ✅

โพสต์ล่าสุด

  การเทรด Forex (Foreign Exchange) เป็นหนึ่งในตลาดการเงินที่มีความผันผวนสูง 📉 ซึ่งความผันผวนส่วนใหญ่มาจากเหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจ การเทรดข่าว Forex จึงเป็นกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อมีข่าวสำคัญประกาศออกมา แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงสูงมากเช่นกัน บทความนี้จะอธิบายถึงวิธีการเทรดข่าว Forex อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งข้อควรระวังที่สำคัญ 1. ทำความเข้าใจกับข่าวเศรษฐกิจที่มีผลกระทบ 🔔 ข่าวเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อตลาด Forex มีหลายประเภท แต่ที่สำคัญที่สุดคือข่าวที่ประกาศจากประเทศที่มีสกุลเงินหลัก เช่น สหรัฐฯ 🇺🇸, ยุโรป 🇪🇺, ญี่ปุ่น 🇯🇵 หรือสหราชอาณาจักร 🇬🇧 ข่าวเหล่านี้มักจะถูกจัดระดับความสำคัญ (Importance) ไว้ในปฏิทินเศรษฐกิจ (Economic Calendar) โดยเทรดเดอร์ควรให้ความสำคัญกับข่าวที่มีระดับสูง เช่น: การประกาศอัตราดอกเบี้ย: จากธนาคารกลาง เช่น Fed, ECB, BoJ หรือ BoE หากมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ค่าเงินมีแนวโน้มที่จะแข็งค่าขึ้น 💪 ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-Farm Payrolls - NFP): ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สะท้อนสุขภาพของเศรษฐกิจแ...
  การเลือกระหว่าง Value Investing (VI) และ Dollar-Cost Averaging (DCA) ขึ้นอยู่กับบุคลิก, ความรู้, และไลฟ์สไตล์ของคุณ ลองดูว่าคุณเป็นแบบไหน: Value Investing (VI): เหมาะกับนักวิเคราะห์และนักธุรกิจในคราบนักลงทุน 🕵️‍♂️ กลยุทธ์นี้เน้นการค้นหาหุ้นของบริษัทที่มี "มูลค่าที่แท้จริง" สูงกว่าราคาตลาด 📈 และเข้าซื้อเมื่อราคายังถูกอยู่ เสมือนการเป็นเจ้าของธุรกิจเอง นักลงทุนสาย VI จึงต้องใช้เวลาอย่างมากในการวิเคราะห์งบการเงิน, ศึกษาอุตสาหกรรม, และทำความเข้าใจโมเดลธุรกิจอย่างลึกซึ้ง VI จึงเหมาะกับ: ผู้ที่มีความรู้และทักษะการวิเคราะห์: 🧠 หากคุณชอบตัวเลข, การอ่านงบการเงิน, และการทำความเข้าใจธุรกิจอย่างละเอียด นี่คือแนวทางของคุณ ผู้ที่มีเวลาและความอดทนสูง: 🕰️ การหาหุ้นดีราคาถูกต้องใช้เวลาและความพยายาม และต้องอดทนถือหุ้นในระยะยาวโดยไม่หวั่นไหวกับความผันผวนของตลาด ผู้ที่ต้องการสร้างพอร์ตการลงทุนแบบเข้มข้น: 💪 คุณจะได้เป็นเจ้าของบริษัทที่แข็งแกร่งและมีอนาคต ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการลงทุนแบบ VI Dollar-Cost Averaging (DCA): เหมาะกับนักสะสมและผู้ที่เริ่มลงทุน 💰 DCA คือการลงทุนแบบ "ถ...
  ในโลกของการลงทุนที่อะไรๆ ก็ดูวุ่นวายและเปลี่ยนแปลงเร็วมาก 🌪️ การลงทุนแบบ "คุณค่า" (Value Investing) ยังคงเป็นแนวทางที่เจ๋งและใช้ได้จริงเสมอ! 🌟 แนวคิดนี้ไม่ใช่แค่การซื้อๆ ขายๆ แต่เป็นการมองหา "ของดีราคาถูก" เหมือนเวลาที่เราไปเดินช้อปปิ้งเลยครับ! 🛍️ ลงทุนแบบคุณค่าคืออะไร? 🤔 หลักการง่ายๆ คือ: ซื้อของที่ราคาถูกกว่ามูลค่าที่แท้จริง! 🏷️ ลองนึกภาพว่าคุณเจอสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดที่คุณภาพดีสุดๆ แต่ร้านค้ากำลังลดราคา 50% คุณจะรีบซื้อไหมล่ะ? 📱 การลงทุนในหุ้นก็เหมือนกันครับ ถ้าเราเจอหุ้นของบริษัทที่เจ๋งมากๆ แต่ราคาในตลาดต่ำกว่าที่ควรจะเป็น เราก็รีบซื้อเก็บไว้! 🤑 นักลงทุนแบบคุณค่าจะใช้เวลาวิเคราะห์บริษัทอย่างละเอียด 🕵️‍♂️ เพื่อหาว่าจริงๆ แล้วบริษัทนี้มี "มูลค่าที่แท้จริง" เท่าไหร่ โดยดูจาก: งบการเงิน: บริษัททำกำไรได้ดีไหม? มีหนี้เยอะรึเปล่า? 📈 ความสามารถในการแข่งขัน: มีจุดเด่นอะไรที่บริษัทอื่นทำตามยาก? มีแบรนด์ที่แข็งแกร่งไหม? 💪 ผู้บริหาร: ทีมผู้บริหารเก่งและซื่อสัตย์รึเปล่า? 🤝 พอเจอหุ้นที่เข้าข่ายแล้ว ก็จะเข้าซื้อและรอให้ตลาดเห็นคุณค่าที่แท้จริงของม...
  ในยุคที่การลงทุนในตลาดหุ้นและสินทรัพย์ดิจิทัลได้รับความนิยมอย่างสูง 💻 หลายคนสนใจที่จะเข้ามาเป็นนักลงทุน แต่สำหรับ พนักงานประจำ 🧑‍💼 ที่มีตารางงานแน่นเอี้ยด การหาเวลามานั่งเฝ้าจอเพื่อเทรดแบบรายวันอาจเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย ❌ แล้วจะมีวิธีไหนบ้างที่ทำให้เราสามารถลงทุนและสร้างผลตอบแทนได้ โดยไม่ต้องทิ้งงานประจำ? คำตอบคือการเลือกใช้ ระบบเทรดที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของพนักงานประจำ ซึ่งเน้นการลงทุนระยะยาวและใช้กลยุทธ์ที่ไม่ต้องใช้เวลาติดตามตลาดตลอดเวลาครับ ⏰
  Spread คือ “ส่วนต่างระหว่างราคา Bid และราคา Ask” ของคู่สกุลเงินหรือสินค้าโภคภัณฑ์ที่นักเทรดต้องจ่ายให้กับโบรกเกอร์ทุกครั้งที่เปิดออเดอร์ แม้จะไม่ใช่ค่าธรรมเนียมโดยตรง แต่ถือเป็นต้นทุนที่ส่งผลโดยตรงต่อกำไรและขาดทุนของนักลงทุน 🔎 Spread คืออะไร? Bid = ราคาที่โบรกเกอร์พร้อมซื้อจากนักเทรด Ask = ราคาที่โบรกเกอร์พร้อมขายให้นักเทรด Spread = Ask – Bid ยกตัวอย่าง: EUR/USD = Bid 1.1000 | Ask 1.1002 → Spread = 2 pips XAU/USD (ทองคำ) = Bid 2000.00 | Ask 2000.50 → Spread = 50 pips 💡 ทำไม Spread ของทองคำถึงแพงกว่าคู่เงินอื่น? ความผันผวนสูง (High Volatility) ราคาทองคำสามารถแกว่งหลายสิบดอลลาร์ใน 1 วัน โบรกเกอร์ต้องกันความเสี่ยง จึงตั้ง Spread กว้างกว่าปกติ สภาพคล่อง (Liquidity) ไม่เท่ากับคู่เงินหลัก คู่เงินหลักเช่น EUR/USD, USD/JPY มีการซื้อขายหนาแน่นมาก ทำให้ Spread แคบ ทองคำแม้จะนิยม แต่สภาพคล่องน้อยกว่าในบางช่วงเวลา ต้นทุนโบรกเกอร์สูงกว่า โบรกเกอร์ต้องอ้างอิงราคาทองคำจากตลาดลอนดอนและตลาดสหรัฐ ซึ่งมีความผันผวนตามข่าวเศรษฐกิจและการเมือง ...
ราคาทองคำใน 1 สัปดาห์มักแสดงพฤติกรรมที่มีรูปแบบเฉพาะในแต่ละวัน เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานต่างกัน เช่น ข่าวเศรษฐกิจ การประชุมธนาคารกลาง และพฤติกรรมของนักลงทุนรายใหญ่ การเข้าใจพฤติกรรมนี้ช่วยให้วางกลยุทธ์ซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ 🗓️ สรุปแนวโน้มรายวันในรอบสัปดาห์ 📌 วันจันทร์: ตลาดเริ่มเปิดอย่างระมัดระวัง 🌐 ตลาดส่วนใหญ่เพิ่งเปิดหลังวันหยุดสุดสัปดาห์ 💤 ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างต่ำ 📉 ราคาทองมัก sideway รอปัจจัยใหม่ 🧠 นักลงทุนมักยังไม่ตัดสินใจซื้อขายหนักในวันแรก 📌 วันอังคาร: เริ่มมีแนวโน้มชัดขึ้น 📊 ปริมาณการซื้อขายเริ่มเพิ่มขึ้น 🔍 ราคาทองเริ่มเคลื่อนไหวตามข่าวหรือดัชนีเศรษฐกิจ 💵 นักลงทุนเริ่มทยอยเปิดสถานะหลังประเมินแนวโน้ม 📌 วันพุธ: วันแห่งข่าวสำคัญ 🧨 ข่าวเศรษฐกิจ เช่น CPI, GDP หรือ FOMC Minutes มักประกาศวันนี้ 📈 ราคาทองมักผันผวนสูงตามข่าว 💣 บางครั้งมีการ “fake move” หรือ break-out หลอก 📌 วันพฤหัสบดี: ราคาวิ่งตามแรงกระเพื่อมจากข่าววันพุธ 🔄 เป็นช่วงที่ตลาดตอบสนองต่อข้อมูลวันก่อนหน้า 📉 หากข่าววิเคราะห์ได้ชัด ราคามักวิ่งต่อเนื่อง ...
  ราคาทองคำมีการเคลื่อนไหวตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากซื้อขายผ่านตลาดโลกหลายภูมิภาค แต่จังหวะและความผันผวนจะต่างกันไปตามช่วงเวลา การเข้าใจรอบเวลานี้ช่วยให้นักลงทุนวางกลยุทธ์ได้แม่นยำขึ้น 🌅 1. ช่วงตลาดเอเชีย (06:00 – 11:00 น. ตามเวลาไทย) 🏯 เปิดจากซิดนีย์และโตเกียว 📉 ปริมาณการซื้อขายยังต่ำ เคลื่อนไหวในกรอบแคบ 📰 ข่าวจากเอเชีย เช่น ตัวเลขเศรษฐกิจจีน อาจทำให้ราคาผันผวนเล็กน้อย 🌍 2. ช่วงตลาดยุโรปเปิด (14:00 – 16:00 น.) 💶 เงินยูโรและปอนด์เริ่มมีอิทธิพล 📈 ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น อาจเบรกกรอบราคาช่วงเช้า 📰 ข่าวเศรษฐกิจยุโรป เช่น CPI หรือการประชุม ECB ส่งผลโดยตรง 🇺🇸 3. ช่วงตลาดสหรัฐเปิด (19:00 – 22:00 น.) 🚀 ผันผวนสูงสุดของวัน 🏦 ข่าวสำคัญ เช่น NFP, GDP, CPI มีผลทันที 💡 นักลงทุนใช้ทองคำเป็น Safe Haven เมื่อเกิดความเสี่ยงในตลาดหุ้น 🌙 4. ช่วงตลาดนิวยอร์กปิด – เอเชียเปิดรอบใหม่ (00:00 – 05:00 น.) 😴 ปริมาณซื้อขายลดลง เคลื่อนไหวช้าลง 🔄 เริ่มพักตัว รอข่าวใหม่ของวันถัดไป 📌 สรุปพฤติกรรมหลักใน 1 วัน 🌅 เช้าเอเชีย: เคลื่อนไหวแคบ รอแรง...
ในการเทรด Forex อินดิเคเตอร์ที่ช่วยบอกโมเมนตัมของราคา ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้นักเทรดตัดสินใจได้แม่นยำยิ่งขึ้น โดยเฉพาะสองตัวที่คนพูดถึงบ่อยคือ RSI (Relative Strength Index) และ Stochastic Oscillator ทั้งสองมีความคล้ายกันในแง่ที่บอกถึงภาวะ Overbought และ Oversold แต่ในความจริงแล้ว แต่ละตัวก็มีวิธีการคำนวณ แนวคิด และการใช้งานที่แตกต่างกัน 📌 จุดเด่นของ RSI RSI เป็นอินดิเคเตอร์ที่พัฒนาโดย Wilder มีหน้าที่วัดความแข็งแรงของแนวโน้ม โดยคำนวณจากอัตราส่วนของวันที่ราคาปิดเป็นบวกกับวันที่ราคาปิดเป็นลบ แล้วเปลี่ยนเป็นค่าเปอร์เซ็นต์อยู่ในช่วง 0 ถึง 100 ค่าที่นักเทรดมักใช้อ้างอิงคือ: RSI มากกว่า 70 = ราคาน่าจะอยู่ในเขต Overbought (ซื้อมากเกินไป อาจถึงเวลาย่อตัว) RSI น้อยกว่า 30 = อยู่ในเขต Oversold (ขายมากเกินไป อาจถึงเวลาดีดกลับ) RSI มักใช้งานได้ดีในตลาดที่มี “แนวโน้มชัดเจน” เพราะมันช่วยบอกได้ว่าเทรนด์ยังแข็งแรงอยู่หรือกำลังจะหมดแรง 📌 จุดเด่นของ Stochastic Stochastic Oscillator พัฒนาโดย George Lane ใช้หลักการเปรียบเทียบราคาปิดล่าสุดกับช่วงราคาสูงสุด-ต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่ง (เช่...
 TD Sequential Count เครื่องมือบอกจุดกลับตัวในกราฟที่นักเทรดต้องรู้                          🙊 หากใครที่ชื่นชอบและชอบสไคล์การเทรดสั้นแบบกลับตัว หรือเล่นสวน ต้องไม่พาดบทความนี้ มาครับแอดจะพาทุกท่านไปรู้จักกับหลักการของ TD Sequential Count แบบเข้าใจง่าย พร้อมวิธีการใช้งาน และข้อควรระวังสำหรับนักเทรด                          🙊 ในโลกของการเทรด ไม่ว่าจะเป็น Forex, หุ้น, คริปโต หรือสินทรัพย์อื่น ๆ การจับจังหวะกลับตัวของราคาให้ได้อย่างแม่นยำถือเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรอย่างยั่งยืน ซึ่งหนึ่งในเครื่องมือที่นักเทรดสายเทคนิคนิยมใช้กันก็คือ TD Sequential หรือที่บางคนเรียกว่า Tom Demark Sequential 🙊 TD Sequential คืออะไร?                          TD Sequential เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่พัฒนาโดย Tom DeMark จุดประสงค์หลักของเครื่องมือนี้คือ ช่วยหา...
 📊 `Trade Frequency: ความถี่ในการเข้าเทรด สำคัญแค่ไหนในตลาด Forex?` ความถี่ในการเข้าเทรด (Trade Frequency) คือจำนวนครั้งที่เทรดเดอร์เปิดออเดอร์ในช่วงเวลาหนึ่ง เช่น ต่อวัน ต่อสัปดาห์ หรือต่อเดือน ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สะท้อนถึง "กลยุทธ์" และ "บุคลิก" ของเทรดเดอร์แต่ละคน 📌 `ประเภทของ Trade Frequency` 1. **Low Frequency Trading (LFT)**      - เปิดออเดอร์ไม่กี่ครั้งต่อสัปดาห์หรือเดือน      - ใช้กลยุทธ์แบบ Swing หรือ Position Trading      - เน้นคุณภาพของการเข้าเทรดมากกว่าปริมาณ      - เหมาะกับคนที่ไม่ชอบดูกราฟทั้งวัน และต้องการความนิ่ง 2. **Medium Frequency Trading (MFT)**      - เทรดหลายครั้งต่อสัปดาห์ หรือวันละ 1–3 ครั้ง      - เป็นจุดกึ่งกลางระหว่างการหาจังหวะดีและการใช้โอกาสในตลาด      - เหมาะกับ Day Trader หรือผู้ที่มีเวลาตรวจสอบกราฟเป็นช่วงๆ 3. **High Frequency Trading (HFT)**      - เปิดหลายออเดอร์ในวันเดียว อาจหลายสิบ...
 FVG Forex คืออะไร เทรดแบบไหน???                         เคยได้ยินกันบ้างมั้ย เทรดเดอร์บางคนก็เทรดด้ยเทคนิคการเทรดโดยอาศัยช่องว่างของราคา  ซึ่งบางคนอาจจะรู้ แต่บางคนก็ไม่เคยรู้ และไม่รู้ว่ามันคืออะไร  ในโลกของการเทรดฟอเร็กซ์ (Forex) มีเทคนิคมากมายที่เทรดเดอร์ใช้วิเคราะห์กราฟเพื่อหาโอกาสทำกำไร มาครับ มาดูกันว่าเทคนิคการเทรดแนวนี้ทำอย่างไรกันบ้าง                           Fair Value Gap หรือ FVG คือช่วงของราคาที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของแท่งเทียนอย่างรวดเร็ว โดยทิ้งระยะห่างมากๆ จนเกิด เป็นช่องว่างราคา ของแท่งเทียน เรามักจะพบเห็นกันได้บ่อยๆครับ ในช่วงที่มีคำสั่งซื้อหรือขายอย่างรุนแรง เช่น การเบรกแนวรับ/แนวต้าน หรือช่วงข่าวแรง โดยปกติ FVG จะเกิดจากโครงสร้างของแท่งเทียน 3 แท่ง คือ: แท่งที่ 1: ราคาเริ่มต้นการเคลื่อนไหว แท่งที่ 2: ราคาเคลื่อนไหวเร็วไปอีกฝั่งหนึ่ง (Bullish หรือ Bearish) แท่งที่ 3: ยังไม่กลับมาทดสอบโซนตรงกลาง...
ในการเทรด Forex เรามักจะได้ยินคำว่า "Golden Cross" อยู่บ่อยๆ แล้วมันคืออะไร? ใช้งานยังไง? บทความนี้จะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และคนที่อยากทบทวนครับ 🔍 Golden Cross คืออะไร? Golden Cross คือ สัญญาณซื้อ ที่เกิดจากการที่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้น (เช่น เส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน หรือ MA50) ตัดขึ้นเหนือ เส้นค่าเฉลี่ยระยะยาว (เช่น MA200) พูดง่ายๆ คือ เป็นสัญญาณบอกว่าแนวโน้มตลาดกำลังเปลี่ยนจากขาลงเป็นขาขึ้น เทรดเดอร์มักใช้สัญญาณนี้เพื่อเริ่มเข้าซื้อ ✅ ตัวอย่างง่ายๆ ลองนึกภาพ: เส้น MA50 = ค่าเฉลี่ยของราคาช่วงสั้น (เช่น 50 วัน) เส้น MA200 = ค่าเฉลี่ยของราคาช่วงยาว (เช่น 200 วัน) หากราคาค่อยๆ ขยับขึ้น จนเส้น MA50 ตัดขึ้นเหนือ MA200 = นี่แหละ! Golden Cross 🚀 ทำไมถึงสำคัญ? มันเป็นสัญญาณว่า "ตลาดอาจจะกลับตัวขึ้น" นักลงทุนรายใหญ่ก็ใช้สัญญาณนี้ ถ้าใช้คู่กับเครื่องมืออื่น เช่น RSI หรือ MACD จะช่วยเพิ่มความแม่นยำมากขึ้น ⚡ คำแนะนำสำหรับมือใหม่ อย่าใช้ Golden Cross อย่างเดียว! ควรดูแนวโน้มรวมของตลาดด้วย ตรวจสอบกราฟ timeframe ใหญ่ เช่น 1H, 4H หรือ Daily ตั้ง Stop L...
Professional Team

Meet Our Leadership Team

พวกเรามุ่งมั่นที่จะ พัฒนา ปรับปรุง เนื้อหาการวิเคราะห์ และ การนำเสนอบทความเทรดต่างๆให้ดียิ่งๆขึ้นไป

Trader Tan / CEO Founder

ผู้ก่อตั้งคนเล่น Forex ตั้งแต่ปี 2010 Master Trader Forex,Traveler Blogger,Vloger YouTuber,Author,Art, Web Designer,Web Developer, Marketing Manager

Coco

Author, Art Teacher , Interior Design , Chef, Lady Fx,Trader Analysis, General Manager

Will Pach

Author,Master Trader Analysis, Web Designer